ในปัจจุบันการแข่งขันทางธุรกิจเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่เป็นธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อมที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ ต้องแข่งขันกันทั้งในด้านคุณภาพสินค้า ราคาที่จับต้องได้ ภาพลักษณ์ของสินค้า โน้วน้าวผู้บริโภคให้เข้าถึงสินค้าได้ง่าย และเข้าถึงกลุ่มตลาดได้มาก ที่กล่าวมานี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการประกอบธุรกิจในปัจจุบัน และหากผู้ประกอบการที่เป็นธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อมที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจ ต้องลงทุนทุกอย่างอาจทำให้เสียเวลา เสียต้นทุน และมีความเสี่ยงต่อการขาดทุนหรือได้กำไรน้อยกว่าที่ควรจะเป็น
OEMและODMต่างกันอย่างไร?
ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่ผู้รับจ้างผลิตสินค้าตามรูปแบบและเครื่องหมายการค้าที่ลูกค้ากำหนด (OEM : Original Equipment Manufacturer) ครอบคลุมสินค้าที่หลากหลาย อาทิ เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้า เฟอร์นิเจอร์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และสินค้าอุปโภค บริโภค เป็นต้น ทั้งที่เป็นการรับจ้างผลิตให้กับผู้ว่าจ้างในประเทศและผู้ว่าจ้างที่เป็นเจ้าของยี่ห้อหรือตราสินค้าอันเป็นที่ยอมรับกันในต่างประเทศ หรือการรับจ้างผลิตสินค้าที่มีดีไซน์หรือรูปแบบสินค้าหรือ(ODM : Original Design Manufacturer) ซึ่งจะช่วยให้สินค้าที่ผลิตมีความโดดเด่นแตกต่างจากคู่แข่ง และสร้างความเข้มแข็งของธุรกิจรวมทั้งเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในอนาคต
การผลิตสินค้าของธุรกิจโดยทั่วไป โดยปกติจะแยกออกได้เป็นหลายรูปแบบดังนี้
OEM : Origianl Equipment Manufacturer
เป็นการรับจ้างผลิตสินค้า ตามรูปแบบและตราสินค้าที่ลูกค้ากำหนด ลูกค้ามีแบรนด์อยู่แล้วหรือต้องการนำไปสร้างแบรนด์ด้วยตัวเอง ทราบขั้นตอนการผลิตของเราได้
ODM : Original Design Manufacturer
เป็นการการผลิตสินค้าที่มีการพัฒนาการวิจัยสูตรขึ้นมาเอง และเอาสินค้าเหล่านั้นไปเสนอขายและผลิตภายใต้ตราสินค้าของลูกค้าอีกทีหนึ่ง ซึ่งธุรกิจแบบนี้มักเป็นผู้ผลิตที่พัฒนามาจากผู้ประกอบการOEM ผู้ประกอบการที่จะพัฒนามาถึงจุดนี้ได้ จำเป็นต้องมีความพร้อมทั้งทางด้านเงินทุน เครื่องมือและเทคโนโลยี รวมทั้งบุคลากรทางด้านการพัฒนาวิจัย รูปแบบและตราสินค้า ในขณะเดียวกันก็ต้องมีแผนการตลาดและงบประมาณที่สูงในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อให้ผู้ซื้อนิยมรูปแบบ คุณภาพสินค้า รวมทั้งความพึงพอใจในตราสินค้าหรือชื่อเสียงของบริษัท ดังนั้น ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจแบบนี้ได้จะเป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่ หรือไม่ก็ต้องทำธุรกิจมาเป็นเวลานาน
สรุป OEMและODM
ในการที่ธุรกิจจะตัดสินใจว่าจะผลิตสินค้าในรูปแบบใดนั้น ต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งความพร้อมทางด้านทุน ความพร้อมทางด้านข้อมูล ความรู้ทางด้านการออกแบบสินค้า รวมทั้งความสามารถในการส่งเสริมและพัฒนาตราสินค้าให้เป็นที่รู้จักของผู้ซื้อ และเรา บริษัท ริเซอร์รา (ประเทศไทย) จำกัด เราคือผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาและบริการการผลิตสินค้าตามความต้องการของลูกค้า พร้อมมีความปลอดภัยและได้รับการรับรองคุณภาพและมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ตลอดจนแนะนำและจัดหาบรรจุภัณฑ์ ออกแบบฉลาก แพคเกจจิ้ง บรรจุ พร้อมจำหน่ายให้กับลูกค้า
บริษัท ริเซอร์รา (ประเทศไทย) จำกัด โรงงานผลิตเครื่องสำอาง เวชสำอาง ผลิตภัณฑ์สปาผิวหน้าและผิวกาย อาหารเสริม เครื่องดื่มสมุนไพร ยาแผนโบราณ ด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ปลอดภัย ได้มาตรฐาน สินค้าคุณภาพ
ติดต่อเรา: 081-1444198, 061-249-4295
อีเมล์: ricerrathai@gmail.com